นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทาน ได้ฟื้นโครงการศึกษาและทบทวนการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล จ.ตาก หลังจากรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายแก่กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมขยายระยะเวลาการดำเนินงานของยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จาก 12 ปี เป็น 20 เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2560-2579) โดยได้วางแผนพัฒนาแหล่งน้ำใหม่ รวมทั้งปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำเดิม และโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล เป็นอีกโครงการหนึ่งที่จะสร้างความมั่นคงของน้ำ
นายเฉลิมเกียรติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กรมชลประทานข้อสรุปการศึกษาโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล ในการที่จะผันน้ำจากลุ่มน้ำสาละวินจากที่มีปริมาณน้ำท่าที่อยู่ในประเทศไทยเฉลี่ยปีละ 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ไหลลงสู่ทะเลโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ใดๆเลย นำมาเติมในเขื่อนภูมิพล จากผลการศึกษาเดิมมี 22 แนวทาง ซึ่งสรุปว่ามี 2 แนวทางที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด
โดยแนวทางแรก เป็นการผันน้ำจากห้วยแขนงและแม่น้ำเมย สาขาของลุ่มน้ำสาละวิน มาเติมในเขื่อนภูมิพล จะต้องมีการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านก่อน ส่วนแนวทางที่ 2 มีความเป็นไปได้มากที่สุด เป็นการผันน้ำจากแม่น้ำยวม ซึ่งเป็นสาขาของลุ่มน้ำสาละวิน ซึ่งอยู่ในประเทศไทย
“คณะผู้เชี่ยวชาญจากทีมที่ปรึกษาได้พิจารณาแล้วเห็นว่า แนวทางที่ 2 ที่จะผันน้ำมาจากแม่น้ำแม่ยวมตอนล่างมาเติมในเขื่อนภูมิพลมีความเป็นไปได้มากกว่าแต่เพื่อสร้างความมั่นใจประกอบการตัดสินใจในเชิงนโยบายของรัฐบาล กรมชลประทานจึงได้ทำการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทั้ง 2 แนวทาง เพื่อคัดเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุด ผลักดันให้เป็นจริง” รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว
แม้การดำเนินโครงการนี้จะใช้เงินลงทุนสูงแต่ผลตอบแทนที่ได้ก็คุ้มค่าเพราะได้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 1,800 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี สามารถสร้างความมั่นคงในเรื่องน้ำทั้งน้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และอุตสาหกรรมให้กับลุ่มเจ้าพระยาได้ในระยะยาว
©2017 Copyright, Thaiagritec. All rights reserved.
อีเมล์ : water4life2017@gmail.com
โทรศัพท์ : 09 8269 1197 08 6888 1918
ที่อยู่ : 299/3 หมู่บ้านเบล็ส วิลล์ รามอินทรา ซอยพระยาสุเรนทร์ 25 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 10510