ในประเด็นการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และแก้ไขปัญหาอุทกภัย ทางเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ แจงว่า มีการขอรับสนับสนุนโครงการการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร จำนวน 40 โครงการ และการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย จำนวน 5 โครงการ โดยโครงการต่าง ๆ ที่กลุ่มจังหวัดเสนอต่างสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์น้ำ และอยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ในแผนแล้ว
สำหรับยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำปี 2561-2565 มีโครงการที่จะดำเนินการรวม 538 โครงการ โดยเฉพาะปี 2562 มีจํานวน 224 โครงการ วงเงินลงทุนกว่า 2,600 ล้านบาท ประชาชนจะได้รับประโยชน์กว่า 7,500 ครัวเรือน
เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ยังได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาและจัดการน้ำ ว่า รัฐบาลได้วางแผนงานที่จะพัฒนาทรัพยากรน้ำในพื้นที่ 4 จังหวัดกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ และปัญหาน้ำท่วม ตามยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำปี 2561-2565 จํานวน 538 โครงการ เมื่อดําเนินการแล้วเสร็จ สามารถเพิ่มความจุเก็บกักรวม 38.93 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) พื้นที่รับประโยชน์ 40,035 ไร่ ประชาชนรับประโยชน์ 79,556 ครัวเรือน ซึ่งมีโครงการสำคัญ คือ โครงการจิตอาสาเพื่อการพัฒนาลําน้ําบนวิถีชีวิตแห่งความพอเพียงเพื่อประโยชน์ และความสุขของประชาชน ในจังหวัดยโสธร ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ด้วย
สำหรับโครงการสำคัญๆ ที่จะดำเนินการ เป็นโครงการของกรมชลประทาน เช่น โครงการประตูระบายน้ำลำเซบก จังหวัดอำนาจเจริญ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง จังหวัดศรีสะเกษ โครงการประตูระบายน้ำห้วยขุหลุ จังหวัดอุบลราชธานี โครงการประตูระบายน้ำลำชีหลง จังหวัดยโสธร โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยบอน จังหวัดอุบลราชธานี โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสังกด จังหวัดศรีสะเกษ โครงการประตูระบายน้ำห้วยที จังหวัดอุบลราชธานี โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยลำเซ จังหวัดยโสธร เป็นต้น ส่วนโครงการที่จะดำเนินการโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง เช่น โครงการระบบป้องกันน้ำท่วม พื้นที่ชุมชนเมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 จังหวัดศรีสะเกษ โครงการระบบป้องกันน้ำท่วม พื้นที่ชุมชนกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นต้น
“ตั้งแต่ปี 2557-2560 ในพื้นที่ 4 จังหวัดดังกล่าว มีการพัฒนาโครงการขนาดเล็ก รวม 1,131 โครงการ เพิ่มความจุเก็บกักรวม 195.69 ล้าน ลบ.ม.มีพื้นที่รับประโยชน์ 673,177 ไร่ มีประชาชนได้รับประโยชน์ทั้งหมด 245,961 ครัวเรือน”เลขาธิการ สทนช.ระบุ
ขณะที่การประชุมคณะกรรมการกลุ่มเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บูรณาการแผนงานบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่เป็นระบบ โดยเร่งศึกษาสำรวจเส้นทางน้ำธรรมชาติทั้งจากลำน้ำชี ลำเซบาย และลำเซบก ซึ่งสอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศจากด้านตะวันตกสู่ตะวันออก ที่ปัจจุบันอาจประสบปัญหาตื้นเขิน และขาดความต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการใช้เป็นทางระบายน้ำออกจากพื้นที่ ในขณะเดียวกันก็ใช้เก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ทั้งนี้ โครงการที่มีความพร้อม รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนงบประมาณดำเนินการภายในปี 61 นี้ โดยไม่ต้องรอโครงการขนาดใหญ่ ที่จะต้องศึกษาเชื่อมโยงกันอย่างรอบคอบ
“สทนช.จะเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และดำเนินการตรวจสอบสถานะของโครงการฯ ที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณของกลุ่มจังหวัดไม่ให้เกิดความทับซ้อนกันระหว่างหน่วยงานปฏิบัติ ซึ่งจะเร่งสำรวจและจัดประชุมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และจัดทําแผนงานร่วมกันโดยเร็ว เพื่อให้สามารถพิจารณาให้การสนับสนุนงบประมาณได้ชัดเจน “ เลขาธิการ สทนช.กล่าว
สำหรับแผนหลักการแผนพัฒนาด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และอํานาจเจริญ ประกอบด้วย 1.โครงการจัดหาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน จำนวน 40 โครงการ แบ่งเป็น โครงการแก้มลิง 25 โครงการ โครงการอาคารบังคับน้ำ 8 โครงการ โครงการฝาย 3 โครงการ โครงการระบบสูบน้ำด้วยโซล่าเซลล์ 3 โครงการ และโครงการระบบกระจายน้ำเขื่อนลําเซบาย จังหวัดอํานาจเจริญ 1 โครงการ
2.โครงการระบบป้องกันปัญหาอุทกภัย 5 โครงการ แบ่งเป็นประตูระบายน้ำ 4 โครงการ และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายนํ้าและบริหารจัดการน้ำลําห้วยคล้า อีก 1 โครงการ
3.โครงการศึกษาความเหมาะสม (FS) 5 โครงการ ได้แก่ โครงการทางผันน้ำฝั่งขวาลําน้ำมูลเพื่อบรรเทาอุทกภัย จังหวัดอุบลราชธานี โครงการการบรรเทาอุทกภัยลําน้ำยังและลําน้ำชีตอนล่าง จังหวัดยโสธรและร้อยเอ็ด โครงการการบรรเทาอุทกภัยและเพิ่มพื้นที่ชลประทานลําเซบาย จังหวัดอํานาจเจริญ โครงการการบรรเทาอุทกภัยและเพิ่มพื้นที่ชลประทานลําเซบก จังหวัดอํานาจเจริญ และโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมืองยโสธร
©2017 Copyright, Thaiagritec. All rights reserved.
อีเมล์ : water4life2017@gmail.com
โทรศัพท์ : 09 8269 1197 08 6888 1918
ที่อยู่ : 299/3 หมู่บ้านเบล็ส วิลล์ รามอินทรา ซอยพระยาสุเรนทร์ 25 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 10510