บริษัทอสังหาบุกตลาดล่าง เคหะฯ สู้ด้วยคุณภาพและรูปแบบ

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สั่งการเคหะแห่งชาติ มุ่งเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยด้วยคุณภาพและรูปแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้าดีกว่าเดิม

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579) การเคหะแห่งชาติได้รับมอบหมายให้จัดหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย และก่อสร้างที่อยู่อาศัยกว่า 700,000 หน่วย และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การเคหะแห่งชาติได้รับโจทย์ใหม่จาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการพัฒนารูปแบบที่อยู่อาศัยและคุณภาพการก่อสร้างต้องสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยของการเคหะแห่งชาติให้ได้

“รูปแบบที่อยู่อาศัยเดิมดูจะแออัดไป คุณภาพการก่อสร้างยังต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ประเภทสร้างเสร็จแล้วซ่อมทันทีต้องไม่เกิดขึ้นเพราะเราจะขายบ้านลำบาก แถมยังต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ ผมให้นโยบายกับผู้ปฏิบัติงาน กคช. ไปแล้วว่า ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ต้องเปลี่ยนจากทำงานเสร็จเป็นทำงานให้สำเร็จ เพื่อว่ามองงานอย่างมีคุณค่าไปยังฝ่ายต่างๆ รวมถึงลูกค้าด้วย

นายทวีพงษ์ กล่าวว่า จากนี้ไปการเคหะแห่งชาติจะเน้นการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อเช่า เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยตลอดจนลดความเลื่อมล้ำ โดยในปี 2564 มีการวางแผนก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ข้าราชการชั้นผู้น้อยที่เกษียณอายุ บ้านเคหะสุขประชา ที่อยู่อาศัยตามแนวโครงข่ายคมนาคมรถไฟฟ้า (TOD) ซึ่งทุกโครงการนี้จะอยู่ในรูปแบบให้เช่าทั้งหมด

“การเคหะแห่งชาติประเมินว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจจะยังคงมีต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปี ดังนั้นโครงการก่อสร้างใหม่ทั้งหมดจะต้องปรับเป็นรูปแบบเช่าทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องรองรับกับกำลังซื้อของลูกค้า และยังมีเพิ่มเติมอีกสำหรับโครงการบ้านเคหะสุขประชา ปีละ 20,000 หน่วย เน้นบ้านเช่าพร้อมอาชีพรองรับภาวะว่างงานอีกด้วย”

สำหรับโครงการบ้านเคหะสุขประชานำร่องที่ฉลองกรุงและร่มเกล้า จะแบ่งพื้นที่ในโครงการเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย พื้นที่พักอาศัย พื้นที่จอดรถ พื้นที่สีเขียว และพื้นที่เศรษฐกิจ