กว่า 118 ปี กรมชลประทานได้ทำหน้าที่บริหารจัดการน้ำขยายพื้นที่จากที่เริ่มต้น ประมาณ 680,000ไรเป็นกว่า 33.98 ล้านไร่
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้สรุปรูปแบบการดำเนินงานของกรมชลประทานตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันเป็น 4 ยุคสมัย
ยุคแรกนั้นเป็นยุคจัดหา ดำเนินการเพื่อจัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเกษตรกรรม มีการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ เช่น โครงการป่าสักใต้ : เขื่อนพระราม 6 ซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ประกอบด้วยเขื่อนทดน้ำปิดกั้นแม่น้ำป่าสักพร้อมระบบส่งน้ำ รวมพื้นที่รับประโยชน์ 680,000 ไร่ การขุดคลองระพีพัฒน์
ยุคที่ 2 เป็น ยุคจัดเก็บ เร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการชลประทานให้ครอบคลุมทั่วประเทศ มีการก่อสร้างแหล่งเก็บกักน้ำหลักบนลำน้ำสาขาต่าง ๆ
ยุคที่ 3 เป็นยุคจัดสรร เป็นยุคของการขยายการชลประทานเพื่อจ่ายน้ำให้การเกษตรและพัฒนาระบบชลประทาน นำน้ำเข้าสู่ไร่นาแปลงเกษตรกรรม ด้วยการดำเนินงานก่อสร้างระบบคันคูน้ำและจัดรูปที่ดิน เพื่อแพร่กระจายน้ำให้แก่พื้นที่เกษตรกรรมได้อย่างทั่วถึง มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำเป็นภาคีเครือข่าย,ทำระบบโทรมาตรเพื่อการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นรูปธรรม ,บริหารจัดการระบบชลประทานโดยเกษตรกรมีส่วนร่วม, จัดตั้งคณะกรรมการจัดการชลประทานเพื่อพิจารณาแผนการส่งน้ำ , แผนการบำรุงรักษาระบบชลประทาน และประเมินผลการดำเนินงาน ,มีการใช้พระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยจัดรูปที่ดินให้สมบูรณ์ทั่วถึงทุกแปลง เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต การจัดระบบน้ำ จัดระบบชลประทานจากทางน้ำชลประทานในพื้นที่เกษตรกรรมได้อย่างทั่วถึง ปัจจุบัน พื้นที่จัดระบบน้ำ 11,209,820 ไร่ พื้นที่จัดรูปที่ดิน 2,017,298 ไร่ รวม 13.227 ล้านไร่ กำหนดเป้าหมายพื้นที่ทั้งหมดตามศักยภาพการพัฒนา 14.461 ล้านไร่ ตามแผนแม่บทการจัดรูปที่ดินตามพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2558
ยุคที่ 4 เป็นยุคที่การดำเนินการของกรมชลประทานจะต้องสอดคล้องกับหลากหลายกิจกรรมในสังคม การวางแผนยุทธศาสตร์การพัฒนางานชลประทานอย่างมีทิศทาง ภายใต้ยุทธศาสตร์กรมชลประทาน 20 ปี ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 และแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำ 20 ปี
เป็นยุคที่การดำเนินงานจะต้องสอดประสานกับองค์ประกอบของสังคมในทุก ๆ ด้านอย่างลงตัว ต้องศึกษาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ ด้าน ทั้งต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย และคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน
ดร.ทองเปลวได้กล่าวว่าการจะ“มุ่งสู่ความมั่นคงด้านน้ำ”ในยุคนี้ กรมชลประทานจะต้องมีการวางยุทธศาสตร์ที่พร้อมจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่ส่งผลต่อน้ำแล้ง น้ำหลาก การเปลี่ยนแปลงทางสังคมของชุมชนทั้งในด้านการขยายตัวของพื้นที่และจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรอบคอบรัดกุม
โดยเฉพาะการจัดเตรียมมาตรการป้องกันภัยแล้งและอุทกภัยด้วยการแจ้งเตือนให้ทุกชุมชนได้ทราบกันล่วงหน้า เพื่อแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
การจะบรรลุเป้าหมาย “ความมั่นคงด้านน้ำ” กระบวนจัดการน้ำ จึงต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยยึดประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติเป็นหลัก
©2017 Copyright, Thaiagritec. All rights reserved.
อีเมล์ : water4life2017@gmail.com
โทรศัพท์ : 09 8269 1197 08 6888 1918
ที่อยู่ : 299/3 หมู่บ้านเบล็ส วิลล์ รามอินทรา ซอยพระยาสุเรนทร์ 25 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 10510