บสย.พลิกโฉมองค์กรสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ยกระดับองค์กรรับเศรษฐกิจดิจิทัล แต่งตั้ง ไพร้ซ์วอเตอร์เฮาส์ฯ  นั่งที่ปรึกษาแผนปรับโครงสร้างองค์กรและบุคลากร

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า เพื่อรองรับและยกระดับองค์กรรัฐวิสาหกิจสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล บสย. เตรียมแผนการปรับโครงสร้างและแผนพัฒนาบุคลากร (Transformation)  จะก่อให้เกิดแนวทางการทำงานรูปแบบใหม่ ซึ่งจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs  ทุกกลุ่ม โดยเน้นให้ความช่วยเหลือสนับสนุนตามความต้องการของแต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสม ทั้ง SMEs กลุ่มที่มีศักยภาพ แต่ยังต้องอาศัยการสนับสนุนจากภาครัฐ และกลุ่มที่สามารถคัดกรองระดับศักยภาพ ความสามารถ และมีแนวทางในการพัฒนา เพื่อปรับลดระดับการพึ่งพิงภาครัฐ นอกจากนี้ การปรับตัวครั้งนี้ ยังรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อที่สร้างโอกาสด้านรายได้  การปรับลดค่าเสียโอกาสในการใช้งบสนับสนุนจากภาครัฐให้ลดลงกลับมาเป็นโยชน์มากขึ้น เพื่อยกระดับการดำเนินงานและสร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพให้แก่ในอนาคต ซึ่งการปรับโครงสร้างองค์กรจะดำเนินการสิ้นสุดภายในเดือน สิงหาคม 2562

ในการปรับปรุงองค์กร ทางบสย.ได้ลงนามในสัญญาจ้างและแต่งตั้ง บริษัท ไพร้ซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด  เป็นที่ปรึกษาโครงการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ และแผนวิสาหกิจ ปี 2563 ตามแผนยุทธศาสตร์ ระยะกลาง ปี 2563 -2567 แผนปฏิบัติการแผนการปรับโครงสร้างและแผนพัฒนาบุคลากร (Transformation) เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดนโยบาย บทบาท และการดำเนินงานของ บสย. ให้เป็นไปตามแนวทาง และข้อกำหนดของผู้มีส่วนได้เสีย  ภายใต้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และกระแสดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว   โดยจะนำมาใช้เป็นแผนวิสาหกิจ และแผนปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรมในการปรับโครงสร้างองค์กร  กล่าวได้ว่า โครงการนี้ จะเป็นการยกเครื่ององค์กรครั้งสำคัญในรอบ 27 ปี เพื่อก้าวสู่องค์กรรัฐวิสาหกิจยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

ขอบข่ายการทำงานที่สำคัญของบริษัท ไพร้ซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์  คอลซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด จะประกอบด้วย  1.แผนการบริหารจัดการธุรกิจรูปแบบใหม่ (New Business Model)  2. แผนการบริหารจัดการโครงสร้างองค์กรและระบบงาน 3.แผนการบริหารบุคคล (HR Strategy)  โดยโครงสร้างระบบงานและระบบการบริหารบุคลากร จะเป็นการทำงานควบคู่สอดคล้องกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม และส่งเสริม สนับสนุนการทำงานของบุคลากร ให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จนนำไปสู่การพัฒนาองค์กรต่อไป ซึ่งบริษัทฯ จะใช้เวลา 150 วันในการดำเนินการ นับจากวันที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา

 

 

 

แสดงความคิดเห็น

บทความล่าสุด

VIEW ALL

กรมชลเดินหน้าปรับปรุงแม่กลองใหญ่ฝั่งซ้าย

กรมชลฯ ขับเคลื่อนโครงการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงระบบชลประทานแม่กลองใหญ่ฝั่งซ้าย 8 โครงการ …

กรมชลทุ่มงบ1.16พันล้านผุดอ่างห้วยคะนานแก้น้ำแล้งหนองบัวลำภู

กรมชลฯ มุ่งเดินหน้าพัฒนาแหล่งน้ำ ลุยปัจฉิมนิเทศโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยคะนาน ใช้งบลงทุน 1,16…

กรมชลชู 10 แผนแก้น้ำแล้งจ.หนองคาย

กรมชลฯ ได้ข้อสรุปปรับปรุงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง จ.หนองคาย ชู 10 กิจกรรม หว…

บทความแนะนำ

VIEW ALL

กรมชลเดินหน้าปรับปรุงแม่กลองใหญ่ฝั่งซ้าย

กรมชลฯ ขับเคลื่อนโครงการศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงระบบชลประทานแม่กลองใหญ่ฝั่งซ้าย 8 โครงการ พื้นที่กว่…

กรมชลทุ่มงบ1.16พันล้านผุดอ่างห้วยคะนานแก้น้ำแล้งหนองบัวลำภู

กรมชลฯ มุ่งเดินหน้าพัฒนาแหล่งน้ำ ลุยปัจฉิมนิเทศโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยคะนาน ใช้งบลงทุน 1,160 ล้านบาท …

กรมชลชู 10 แผนแก้น้ำแล้งจ.หนองคาย

กรมชลฯ ได้ข้อสรุปปรับปรุงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง จ.หนองคาย ชู 10 กิจกรรม หวังเพิ่มประ…